|
|
|
หน้าที่และความรับผิดชอบ
ปฏิบัติงานในฐานะผู้เชี่ยวชาญในงานวิชาการด้านเทคนิคการแพทย์
โดยงานที่ปฏิบัติต้องใช้ความรู้ ความสามารถ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์สูง
มีผลงานที่แสดงความ เป็นผู้เชี่ยวชาญเป็นที่ยอมรับ โดยมีความคิดริเริ่ม
ยกเลิก หรือกำหนดขั้นตอน และตัดสินใจ เกี่ยวกับทรัพยากรที่จะนำมาใช้
เพื่อให้การดำเนินงานทางห้องปฏิบัติการหรือแผนงานโครงการ เป็นไปตามวัตถุประสงค์
ตลอดจนเสนอแนะและประเมินผลของโครงการให้สำเร็จตามเป้าหมายและ
วัตถุประสงค์ของโครงการ และปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่ได้รับมอบหมาย
หรือ
บริหารงานในฐานะหัวหน้าหน่วยงานที่สูงกว่ากอง
ซึ่งมีหน้าที่และความรับผิดชอบในการควบคุม กำกับ งานหลักตามอำนาจหน้าที่ของหน่วยงาน
มีขอบเขตเนื้อหาของงานหลากหลายและมีขั้นตอนการทำงานที่ยุ่งยากซับซ้อนมากเป็นพิเศษ
โดยปกครอง บังคับบัญชาข้าราชการและลูกจ้างตามที่ได้รับมอบหมาย
และปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่ได้รับมอบหมาย
ลักษณะงานที่ปฏิบัติ
ปฏิบัติหน้าที่อย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างที่ต้องใช้องค์ความรู้
ความสามารถ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์สูงทางด้านเทคนิคการแพทย์
และทางด้านอื่น ๆ เช่น ริเริ่มการดำเนินงานวิจัยต่าง ๆ หรือปฏิบัติงานวิจัยที่ก่อให้เกิดการพัฒนางานบริการ
ตรวจ วิเคราะห์ให้มี คุณภาพและประสิทธิภาพ สอน ฝึกอบรม ให้คำปรึกษาแนะนำ
ให้การบริการหรือเผยแพร่วิชาการ เพื่อนำผลมาใช้ในการวินิจฉัย
ค้นหาสาเหตุ วิเคราะห์ความรุนแรง ติดตามผลการรักษา การป้องกันและเฝ้าระวังโรค
การประเมินภาวะสุขภาพ การส่งเสริมสุขภาพ การพิสูจน์หลักฐาน การพัฒนาคุณภาพชีวิตหรือพัฒนาวิชาการ
โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีด้านใด ด้านหนึ่งซึ่งครอบคลุมด้านเคมีคลินิก
จุลทรรศน์ศาสตร์คลินิก จุลชีววิทยาคลินิก ปรสิตวิทยา โลหิตวิทยา
คลังเลือด อิมมิวโนวิทยา พิษวิทยา เซลล์วิทยา หรือแขนงอื่น ๆ
ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพของมนุษย์ เช่น อณูชีววิทยา การตรวจการเข้ากันได้ของเนื้อเยื่อ
เทคโนโลยีสารสนเทศทางห้องปฏิบัติการ ฯลฯ ติดตามและประเมินผล
กำหนดวิธีการทดสอบและคุณลักษณะเฉพาะของเครื่องมือ วัสดุอุปกรณ์
และน้ำยาที่ใช้ในห้องปฏิบัติการตลอดจนให้คำปรึกษาแนะนำในการปฏิบัติงานแก่เจ้าหน้าที่ระดับรองลงมา
ฝึกอบรม เผยแพร่ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการและวิธี การของงานในความรับผิดชอบ
ให้คำปรึกษาแนะนำ และเป็นวิทยากรตอบปัญหาและชี้แจงเรื่องต่าง
ๆ เกี่ยวกับงานในหน้าที่ เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการต่างๆ ตามที่ได้รับการแต่งตั้ง
หรือเข้าร่วมประชุมเกี่ยวกับงานด้านเทคนิคการแพทย์ ทั้งในและต่างประเทศ
และปฏิบัติหน้าที่อื่นที่เกี่ยวข้อง
ในฐานะหัวหน้าหน่วยงาน นอกจากอาจปฏิบัติงานดังกล่าวข้างต้นบ้างแล้ว
ยัง ทำหน้าที่กำหนดนโยบายการปฏิบัติงาน พิจารณาวางอัตรากำลังเจ้าหน้าที่และงบประมาณของ
หน่วยงานที่รับผิดชอบ ติดต่อประสานงาน วางแผน มอบหมายงาน วินิจฉัย
สั่งการ ควบคุม ตรวจสอบ ให้คำปรึกษาแนะนำ ปรับปรุง แก้ไข ติดตามประเมินผล
และแก้ปัญหาข้อขัดข้อง ในการปฏิบัติงานในหน่วยงานที่รับผิดชอบ
คุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่ง
1. มีคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งนักเทคนิคการแพทย์
3 หรือนักเทคนิค การแพทย์ 4 ข้อ 2 หรือนักเทคนิคการแพทย์ 5 ข้อ
3 และได้ดำรงตำแหน่งในระดับ 8 หรือที่ ก.ม. เทียบเท่ามาแล้วไม่น้อยกว่า
1 ปี โดยจะต้องปฏิบัติราชการเกี่ยวกับงานวิชาการด้านเทคนิคการแพทย์
หรืองานอื่นที่เกี่ยวข้องมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี หรือ
2. มีคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งนักเทคนิคการแพทย์
3 หรือนักเทคนิค การแพทย์ 4 ข้อ 2 หรือนักเทคนิคการแพทย์ 5 ข้อ
3 และได้ดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าระดับ 7 หรือที่ ก.ม.เทียบเท่ามาแล้วไม่น้อยกว่า
2 ปี โดยจะต้องปฏิบัติราชการเกี่ยวกับงานวิชาการด้านเทคนิคการแพทย์
หรืองานอื่นที่เกี่ยวข้องมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี
ความรู้ความสามารถที่ต้องการ
นอกจากจะมีความรู้ความสามารถเช่นเดียวกับนักเทคนิคการแพทย์
8 แล้ว
1. ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ จะต้องมีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์สูง
โดยมีผลงานที่แสดงความเป็นผู้เชี่ยวชาญเป็นที่ยอมรับ และมีความสามารถในการให้คำปรึกษาแนะนำด้านเทคนิคการแพทย์แก่
หน่วยงานที่สังกัดและส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง
2. ในฐานะหัวหน้าหน่วยงานที่สูงกว่ากอง
จะต้องมีความรู้และประสบการณ์ เป็นพิเศษ และมีความสามารถในการให้คำปรึกษาแนะนำด้านเทคนิคการแพทย์แก่
หน่วยงานที่สังกัดและส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง
หมายเหตุ: ก.ม.กำหนดวันที่
27 ธันวาคม 2537
แก้ไขเพิ่มเติม ครั้งที่ 1
วันที่ 5 มกราคม 2541 |
|
|